วิธีทำต้มยำกุ้ง

วิธีทำ
1. นำกุ้งและเห็ดมาล้างให้สะอาด ปลอกเปลือกกุ้ง ผ่าหลังเอาเส้นดำออก ส่วนเห็ดนำมาผ่าเป็น 4 ส่วน
2. นำตะไคร้ ใบมะกรูด พริกสด และผักชีมาล้างน้ำให้สะอาด สะเด็ดน้ำแล้วหั่นตะไคร้เฉียงๆ ฉีกใบมะกรูดเอาเส้นกลางใบออก ทุบพริกแล้วหั่นเป็นท่อน ส่วนผักชีนำมาหั่นหยาบๆ
3. เปิดเตาที่ไฟแรงปานกลาง นำน้ำซุปใส่หม้อ รอจนเดือดจึงใส่ตะไคร้และใบมะกรูดลงไป เคี่ยวไปประมาณ 5 นาที
4. ใส่เห็ดและกุ้งลงไป รอจนเดือดประมาณ 2-3 นาทีจึงปิดเตา
5. ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงต่างๆ คือซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) น้ำมะนาว น้ำพริกเผา และพริกทุบ ชิมรสตามชอบ ใส่ผักชีโรยหน้า คนให้เข้ากัน
6. ตักต้มยำกุ้งใส่ถ้วย จากนั้นก็ยกเสริฟได้เลยค่ะ
"ต้มยำกุ้งดั้งเดิม เราต้องทำน้ำสต็อก (น้ำซุป) ต้มยำกุ้ง คือต้องต้มเครื่องต้มยำ เช่น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด กับหัวกุ้ง เพื่อให้ได้น้ำสต็อกกุ้ง ถ้าจะกินต้มยำกุ้ง เราต้องได้รสชาติของเครื่องเทศและน้ำสต็อกกุ้ง ชิมรสได้รสเปรี้ยว เค็ม เผ็ดนิดหน่อย ถ้าจะกินให้รสจัดถึงใจน่าจะกินต้มแซบ" อาหารประเภท 'ต้มแซบ' เหมือนต้มยำของภาคอีสาน คือใส่ทั้งพริกแห้ง พริกสด ใบกะเพราสด มีข่าตะไคร้และใส่เห็ดเหมือนต้มยำ
นอกจากนี้ หลายคนยังอาจเคยชินกับ 'ต้มยำกุ้งน้ำข้น' แบบที่ใส่ นมสด และเข้าใจว่าเป็นต้มยำกุ้งตำรับดั้งเดิม นี่ก็เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน

"ประวัติต้มยำกุ้งที่เปลี่ยนมาใส่นม กินอย่างน้ำข้น เริ่มในสมัยรัชกาลที่ 6 ช่วงที่ท่านเสด็จประพาสกินเหลาแถวสามย่าม สมัยนั้นมีเหลาของคนจีนเข้ามาใหม่ร้านหนึ่ง เขาทำต้มยำกุ้งใส่นม เป็นน้ำข้น ใครรุ่นนั้นที่ไฮโซก็ต้องไปกินเหลาร้านนี้ ก็จะติดภาพต้มยำกุ้งของไทยต้องใส่นม จริงๆ ไม่ใช่ ต้มยำกุ้งดั้งเดิมจริงๆ จะเป็นแบบน้ำใส"
สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
ต้มยกุ้ง โดย " property="cc:attributionName" rel="cc:attributionURL">วิธีทำ อนุญาตให้ใช้ได้ตาม สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา 4.0 International.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น